ความสำคัญของ PANTONE


1275 Views

  ศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564

Pantone เกิดขึ้นมาเพื่อใช้กำหนดสีและกำจัดการเข้าใจผิดกันระหว่างโรงพิมพ์และนักออกแบบเรื่องสีของงานพิมพ์ ส่วนคำว่า Pantone นั้น คือ ชื่อบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสีที่เกี่ยวข้องกับงานพิมพ์ทุกชนิดที่ต้องการความแม่นยำในการกำหนดค่าก่อนพิมพ์
 
Pantone ที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ PANTONE SOLID COLOR หรือ เรียกอีกอยางหนึ่งว่า PANTONE SPOT COLOR หรือสีพิเศษ สีของ Pantone นั้นยังบางคนเข้าใจผิดว่าเกิดจาก การผสมของสี CMYK จึงทำให้เกิดสีพิเศษแต่ที่จริงแล้วนั้นเกิดจากการผสมของสีอื่นที่มีเฉดที่แตกต่างกันออกไปเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เพียงแต่ CMYK เท่านั้นเพราะว่าสีของ Pantone นั้นถูกทำขึ้นมาเพื่อทดแทนสีที่ CMYK ไม่สามารถพิมพ์ได้ โดยสี Pantone นั้นจะถูกระบุเป็นรหัส เช่น Pantone 101c เป็นต้น
 
จุดกำเนิด PANTONE บริษัทสีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ลอว์เรนซ์ เฮอร์เบิร์ต (Lawrence Herbert) เจ้าของโรงพิมพ์แห่งหนึ่งปวดหัวสุดๆ กับปัญหาสั่งซื้อหมึกแล้วต้องมานั่งลุ้นว่าสีที่ได้จะตรงกับที่เขาต้องการไหม ในสมัยนั้นดีไซเนอร์แต่ละคนจะมีสมุดสี หลายเล่มอยู่กับตัว เพราะโรงงานหมึกแต่ละที่ก็จะมีเซตสีของใครของมัน ซึ่งจะสะท้อนค่าสีที่แตกต่างกันเมื่อถูกกระทบด้วยแสงที่แตกต่างกัน
 
ด้วยเหตุนี้เองบ่อยครั้งที่เฮอร์เบิร์ตต้องผสมสีที่เขาต้องการเอง ซึ่งเขาคิดว่านั่นมันเป็นวิธีการที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย ความหงุดหงิดประกอบกับความสงสัย ทำให้เฮอร์เบิร์ตคิดขึ้นมาว่าจะทำยังไง คนถึงจะสื่อสารสีที่ต้องการได้รู้เรื่อง เขาเลยคิดอยากทำ “ภาษากลางของสี” ขึ้นมา
 
แม้จะผสมสีตัวอย่างเองและทำเป็นหนังสือไกด์รหัสสีขึ้นมาเพื่อส่งไปให้โรงพิมพ์ต่างๆ แต่ขั้นตอนของการเริ่มต้นนั้นไม่ง่าย เพราะอยู่ดีๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปิดรับไอเดียใหม่ๆ แบบนี้ และเพื่อให้มันเป็น “มาตรฐาน” จริงๆ เฮอร์เบิร์ตก็เลยทำตัวเหมือนนักการเมืองที่ต้องเดินทางไปล็อบบี้คนในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการกราฟิกดีไซเนอร์ และบริษัทหมึก จนในที่สุดเมื่อหลายคนเริ่มใช้มัน เพราะช่วยแก้ปัญหาจริงๆ มันก็กลายเป็น “ภาษากลางของสี” ที่ทั่วโลกยอมรับ โรงพิมพ์ของเฮอร์เบิร์ตมีชื่อว่า Pantone และตั้งแต่ปี 1963 เป็นต้นมา ระบบ Pantone ก็เป็นระบบของการอ้างอิงสีที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เพราะภายใต้ระบบของ Pantone นั้น ถ้าหากใครในนิวยอร์กอยากพิมพ์อะไรบางอย่างในโตเกียว พวกเขาเพียงแค่เปิดหนังสือ Pantone แล้วบอกเบอร์ไป สีที่ได้ก็จะเป็นสีเดียวกันทั่วโลก ไม่ต้องมาทะเลาะตบตีเพราะอ้างอิงมาตรฐานต่างกันอีกต่อไป ระบบสีของเฮอร์เบิร์ตทำเงินได้อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เท่านั้นยังไม่พอ Pantone ยังเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลในเรื่องของการกำหนดเทรนด์ของสีอีกด้วย โดยการใช้วิธี data mining เพราะเมื่อสีกลายเป็นเลข (เบอร์ของ Pantone) แล้วนั้น มันเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากในการติดตามความต้องการและคาดการณ์เทรนด์ของตลาด เช่น Pantone ให้สี Greenery Pantone 15-0343 (ซึ่งมีสีอารมณ์ประมาณชาเขียวปั่นของ Starbucks) เป็นสีที่มาแรงแห่งปี 2017 เป็นต้น ซึ่ง Pantone นั้นมีความสำคัญต่อวงการดีไซน์เป็นอย่างมากจากความช่างสงสัยของเฮอร์เบิร์ตทำให้ Pantone กลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายล้านเหรียญฯ ต่อปีที่มีความสำคัญต่อธุรกิจการพิมพ์และดีไซน์เป็นอย่างมาก มากจนไม่น่าเชื่อว่าจุดเริ่มต้นของมันมาจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย สิ่งที่เขาคิดมาจากของที่เขาเห็นวางกองระเกะระกะอยู่บนโต๊ะ นั่นคือ สมุดสีซึ่งในตอนนั้นมันแทบไม่มีค่าอะไร แต่ด้วยจินตนาการของเฮอร์เบิร์ตบวกกับการทำงานหนัก เขาจึงสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของวงการที่ยังคงใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
         
ปัจจุบัน Pantone เป็นมาตรฐานที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการการเลือกสี ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น พลาสติก งานพิมพ์ ศิลปะ ก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ฯลฯ ตั้งแต่เริ่มใช้ในปี 1963 Pantone ได้กลายเป็นภาษาสากลที่ถูกใช้กันทั่วโลก
 
อ้างอิงเนื้อหา จาก
https://www.bundanthai.com/th/news/54